จากเดิมที่มีการเลื่อนกำหนดวันสิ้นสุดในการระงับใช้ภาษีนำเข้าสหรัฐ (Reciprocal Tariff) จากวันที่ 9 กรกฏาคม 2568 เป็นวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ ทั้งหมดจะยังคงต้องเสียภาษีศุลกากร (Receiprocal Tariff) จนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ยกเว้นจีน ซึ่งอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐ 10% จะสิ้นสุดในวันที่ 12 สิงหาคม 2568

ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เสนออัตราภาษีนำเข้าสหรัฐสำหรับ 22 ประเทศ และคาดว่าจะมีประกาศเพิ่มเติมอีกในภายหลัง โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ตามประกาศ หากประเทศที่เกี่ยวข้องใดๆ เพิ่มภาษีศุลกากรต่อสหรัฐฯ สหรัฐฯจะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าซึ่งกันและกันต่อประเทศนั้นๆ ในปริมาณที่เท่ากัน และสินค้าใดๆ ที่ขนส่งเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าที่สูงกว่า จะต้องเสียภาษีศุลกากรที่สูงกว่านั้นด้วย

วันที่ 7 สิงหาคม 2568 ประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม 25% กับสินค้าจากอินเดีย เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดีย 25% ที่บังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 โดยในครั้งที่สองนี้ให้เหตุผลว่า อินเดียยังคงนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทรัมป์มองว่าเป็นการสนับสนุนการทำสงครามของรัสเซียในยูเครน

อัตรภาษีนำเข้าใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้วันที่ 27 สิงหาคม 2568 ซึ่งจะทำให้อัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ กับสินค้าจากอินเดียพุ่งสูงถึง 50% ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราภาษีที่สูงที่สุดที่สหรัฐฯเคยเรียกเก็บจากประเทศคู่ค้า